บริหารหลังส่วนบน และกลาง


BARBELL ROW

ขณะยกคานบาร์เบลล์ขึ้นจากพื้น หรือจะวางคานบาร์เบลล์ลงบนพื้น ต้องบังคับตัวเองให้ก้นอยู่ต่ำไว้เสมอ (ตามภาพข้างบน) อย่าโค้งตัวลง (คืออย่าให้ก้นสูง)จับคานเด็ดขาด เพราะร่างกายจะเสียสมดุล อาจเกิดการบาดเจ็บที่หลังส่วนล่างได้ครับ จากนั้นให้จัดลักษณะหลังดังภาพข้างล่างนี้

เมื่อยกคานบาร์เบลล์ขึ้นจากพื้นอย่างถูกวิธีแล้ว จึงจัดหลังให้ตรงและขนานกับพื้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ทำความรู้สึกว่ากำลังแอ่นหลังอยู่ก็จะยิ่งปลอดภัยกับหลังส่วนล่าง) งอเข่าเล็กน้อย (ตามภาพ) แล้วล็อคร่างกายทั้งตัวให้อยู่ในท่านี้เพื่อจะได้เริ่มบริหาร

ออกแรงจากกล้ามปีก ดึงบาร์เบลล์ขึ้นมาจากพื้น พร้อมกับหายใจออก (อย่า!ใช้การเหวี่ยงร่างกายท่อนบนเพื่อดึงบาร์ ที่ถูกคือขยับได้แค่แขนทั้งสองข้างเท่านั้น นอกนั้นให้ตรึงอยู่กับที่ไว้ทั้งตัว) ดึงบาร์ขึ้นมาจนเกือบแตะสะดือ (ตามภาพข้างบนสุด ที่เป็นหมายเลข 2)

ค้างอยู่จังหวะนี้ประมาณ 1 วินาที และเกร็งกล้ามปีก (เกร็งกล้ามปีกที่ออกแรงยกบาร์เบลล์ขึ้นมา)

ผ่อนบาร์ลงไปสู่จังหวะ 1 พร้อมกับหายใจเข้า โดยเมื่อบาร์เบลล์อยู่ระดับต่ำสุดให้นับว่า "1"

ทำซ้ำเช่นนี้อีก จนนับได้ "8" หรือตามจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ ก็ถือว่าเป็น 1 เซท

เทคนิคเพิ่มเติม

ก่อนเริ่มบริหาร ถ้าบริหารกล้ามปีกด้วยท่านี้ (ท่า Barbell Row ตามภาพบนสุด) เป็นท่าแรกในการบริหารกล้ามปีก (หมายความว่า สมมติว่าวันนั้นคุณบริหารกล้ามปีก ต่อจากกล้ามอก หรือจะบริหารกล้ามปีกก่อนกล้ามเนื้อส่วนอื่นก็ตาม โดยคุณลำดับท่าที่จะเล่นกล้ามปีกไว้ คือ BARBELL ROW เป็นท่าแรกตามด้วยท่าอื่นๆเช่น ONE-ARM DUMBBELL ROW ตามด้วย HEAVY DEADLIFTเป็นต้น) ก็ขอให้คุณยืดเส้นกล้ามปีกเสียก่อน วิธียืดกล้ามปีกเริ่มด้วยการใช้มือข้างซ้ายจับเสา หรือขอบประตูก็ได้ แล้วออกแรงโน้มตัวไปด้านหลัง (ตามภาพ) ให้รู้สึกว่ากล้ามเนื้อบริเวณปีกถูกยืดจนสุด จากนั้นให้ค้างอยู่ในท่านี้ โดยนับ 1 - 50 แล้วจึงเปลี่ยนไปใช้ข้างขวา แล้วปฏิบัติเช่นเดียวกัน
แต่ถ้าบริหารท่า Barbell Row ตามภาพบนสุด หลังจากบริหารกล้ามปีกท่าอื่น (เช่นเอาไปบริหารหลังท่า ONE-ARM DUMBBELL ROW ) ก็ไม่ต้องยืดเส้นแล้วครับ เพราะถือว่ากล้ามปีกได้ถูกวอร์มและยืดเส้นมาจากท่าอื่นแล้ว

ขณะพักเซท ระหว่างพักเซท ให้ใช้ท่านี้ยืดเส้นกล้ามปีก โดยเริ่มจากปีกข้างซ้ายก่อน โดยนับแต่ละข้างแค่ 1 - 10 พอครับ

ถ้าบาร์เบลล์แผ่นใหญ่มากๆ ก็อาจยืนบนกล่องไม้ เพื่อเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง เพื่อที่ว่าแผ่นบาร์เบลล์จะได้ไม่โดนพื้นในขณะบริหารครับ

- ในท่าบริหารนี้ คุณต้องใช้แรงจาก กล้ามปีก (คลิ๊กดูภาพ) ไม่ใช่ใช้แรงจาก กล้ามหลังส่วนล่าง (คลิ๊กดูภาพ)
- รักษาระดับร่างกายท่อนบนให้ขนานกับพื้นตลอดเวลา
- ดึงบาร์ไปแตะที่หน้าท้อง อย่าดึงไปที่หน้าอก
- ภาพทางซ้ายมือนี้คือภาพที่บริหารผิดทั้ง สองท่าดังนี้
1.เวลาดึงบาร์ขึ้นมา หากร่างกายท่อนบนคุณไม่อยู่นิ่ง คือคุณเคลื่อนตัวขึ้นไป (ดังภาพที่เป็นเส้นประ) ตามจังหวะที่คุณดึงบาร์ขึ้นมา นั่นแปลว่าคุณเอา หลังส่วนล่าง เข้ามาใช้ในการออกแรงแล้ว
2.หากคุณดึงบาร์มาแตะที่หน้าอก ตามภาพที่ไม่ใช่เส้นประนี้ แสดงว่าคุณใช้แรงจาก
กล้ามไบเซบ (คลิ๊กดูภาพ) เข้ามาแย่งกล้ามปีกออกแรงแล้ว



- END -


บริหารหลังแขน


BEHIND - THE - BACK TRICEPS EXTENSION

จังหวะที่ 1 จับบาร์เบลล์ทางด้านหลัง ให้มือทั้งสองห่างกันมากกว่าความกว้างของหัวไหล่ คานบาร์จะอยู่บริเวณก้นของเรา
จังหวะที่ 2 ใช้แรงจากแขน ดันบาร์เบลล์ไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด พร้อมกับหายใจออก
ค้างไว้ในจังหวะที่ 2 นี้ประมาณ 2 วินาที
ลดระดับบาร์ลงมาสู่จังหวะที่ 1 พร้อมหายใจเข้า เมื่อมาถึงจังหวะที่ 1 แล้วจะหายใจเข้าเต็มปอดพอดี แล้วนับว่า "1"
บริหารซ้ำอีก นับว่า "2" "3" ไปเรื่อยๆจนครบจำนวนครั้งที่กำหนด จึงถือเป็น 1 เซท พัก 1 นาทีแล้วเริ่มบริหารเซทต่อไป

หมายเหตุ 1.ให้ใช้น้ำหนักเบาๆ
2.เวลายกบาร์เบลล์ขึ้นจากพื้น ให้ไปยืนทางด้านหน้าบาร์เบลล์ที่วางอยู่ แล้วก้มตัวลงจับ (ดังภาพข้างล่าง)

- end -


เริ่มกันเลย ท่าที่ 1 ต้นแขนด้านหน้า (ไบเซบ,ลูกหนู)

ALTERNATING INCLINE DUMBBELL CURL


จังหวะที่ 1
จังหวะที่ 2
จังหวะที่ 3
จังหวะที่ 4
จังหวะที่ 1 เริ่มด้วยการนั่งบนม้าเอียง และถือดัมเบลล์ไว้ในมือทั้งสองข้าง เหยียดแขนตรง หันฝ่ามือเข้าหาลำตัวก็ได้ (ในรูปไม่ได้หันฝ่ามือเข้าหาลำตัว แต่ท่าที่ถูกจริงๆแล้ว จะต้องหันฝ่ามือเข้าหาตัวครับ นั่นเป็นเพราะนายแบบคนนี้ บริหารมาหลายปีแล้ว จึงอาจต้องการพลิกแพลงท่าบริหารบ้าง),หันหน้าตรงไปข้างหน้า (ในภาพนั้น ผู้บริหารกำลังมองกล้ามเนื้อไบเซบอยู่ แต่ที่ถูกแล้วจะต้องมองตรงไปข้างหน้าครับ) จากนั้นทำความรู้สึกว่าร่างกายทั้งหมดถูกล็อคเอาไว้กับที่ ตามภาพในจังหวะที่ 1

จังหวะที่ 2 เริ่มจากแขนซ้ายก่อน โดยออกแรงจาก กล้ามไบเซบ (คลิ๊กเพื่อดูภาพ) ทางข้างซ้าย ม้วนข้อยกดัมเบลล์ขึ้นมาพร้อมกับค่อยๆหมุนข้อมือ พร้อมกับเริ่มหายใจออก (ลองสังเกตดูที่แขนข้างที่ยังไม่ได้ยกลูกดัมเบลล์ขึ้นมานะครับ เขาจะหันฝ่ามือข้างนั้นเข้าหาตัวตลอดเวลา เหตุผลก็เพื่อเวลายกลูกดัมเบลล์แต่ละข้างขึ้นมา จะได้มีการหมุนข้อมือ เพื่อการเคลื่อนไหวกล้ามไบเซบด้วยครับ ซึ่งคุณอาจทดลองในตอนนี้เลยก็ได้ว่า เมื่อคุณหมุนข้อมือ กล้ามไบเซบคุณจะขยับขึ้นลงด้วยครับ เราก็นำหลักการนั้นมาใช้ในการบริหารท่านี้แหละครับ) โดยทำความรู้สึกว่าร่างกายทั้งตัว ขยับได้แค่ แขนท่อนปลาย (คลิ๊กเพื่อดูภาพ) ของข้างซ้ายเท่านั้น นอกนั้นต้องอยู่นิ่งหมด ให้ยกดัมเบลล์ขึ้นมาจนกระทั่งเมื่อดัมเบลล์อยู่ที่จุดสูงสุดในจังหวะ 2 นั้นฝ่ามือก็จะหงายพอดี และหายใจออกหมดปอดพอดี ให้ค้างอยู่ในจังหวะนี้ประมาณ 2 วินาที

จังหวะที่ 3 ค่อยๆลดดัมเบลล์ข้างซ้ายลงอย่างช้าๆ และเริ่มหมุนข้อมือ พร้อมกับเริ่มหายใจเข้า จนกระทั่งดัมเบลล์ลงไปอยู่ในจุดต่ำสุด ตามจังหวะที่ 3 ก็หายใจเข้าเต็มปอดพอดี และฝ่ามือหันเข้าหาลำตัวเหมือนเดิม แล้วนับว่า "1"
วิธีนับแบบนี้ เป็นเทคนิคการนับของคุณ ชอร์น เรย์ (คลิ๊กเพื่อดูรูป) คือจะนับไปว่า หนึ่ง..หนึ่ง ,สอง..สอง.. ,สาม..สาม..ไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบจำนวนครั้ง เช่นในตารางฝึกบอกให้ทำท่านี้เซทละ 8 ครั้ง จำนวน 3 เซท ก็จะนับว่า หนึ่ง..หนึ่ง ,สอง..สอง ,สาม..สาม ,สี่..สี่ ,ห้า..ห้า ,หก..หก ,เจ็ด..เจ็ด ,แปด..แปด ก็ถือว่าเสร็จเซทที่ 1 แล้วก็พัก 1 นาที พอพักครบ 1 นาทีแล้วก็เริ่มเซทที่ 2 โดยนับเหมือนเซท 1 ทุกประการ พอครบแล้วก็พัก 1 นาที จากนั้นก็เริ่มเซทที่ 3 โดยนับเหมือนเซทที่ 1 ทุกประการ บางทีในตารางฝึกของฝรั่งก็จะเขียนแค่ตัวเลขว่า 8 x 3 อันหมายถึงให้บริหารเซทละ 8 ครั้งจำนวน 3 เซทครับ

หมายเหตุ - ที่ให้เริ่มบริหารจากแขนซ้ายก่อน เนื่องจากส่วนมากคนจะถนัดขวา และใช้แขนข้างขวามากกว่า ทำให้แขนขวาใหญ่กว่าแขนซ้ายโดยธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อเล่นกล้าม เราก็จะตกแต่งมันให้โตทันกัน โดยแขนที่ถูกเริ่มบริหารก่อน จะสด(Fresh)กว่าแขนอีกข้างหนึ่ง ก็จะโตไวกว่า ดังนั้น สำหรับเพื่อนสมาชิกที่ ถนัดซ้าย ก็ขอให้ทำตรงกันข้ามคือ ให้เริ่มบริหารจากแขนขวาก่อนครับ


- END -

ที่มาเนื้อหาดีๆจาก http://www.tuvayanon.net/